สถานการณ์ ในภูมิภาคทะเลดำซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างรัสเซียและยูเครนขณะนี้มีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากรัสเซียตัดสินใจไม่ต่ออายุข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านเส้นทางดังกล่าว
โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเตือนเรือขนส่งสินค้าที่มุ่งหน้าสู่ยูเครนอาจตกอยู่ในอันตราย ขณะเดียวกันรัสเซียยังคงยิงขีปนาวุธโจมตีพื้นที่ภูมิภาคโอเดสาริมทะเลดำของยูเครนเป็นคืนที่ 2 ทำให้ธัญพืชที่เก็บไว้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
นายมิโคลา โซลสกี (Mykola Solskyi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนโยบายกสิกรรมและอาหารของยูเครนเปิดเผยว่าการขีปนาวุธที่ยิงจากฝ่ายรัสเซียเพื่อโจมตีพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลดำได้ทำลายธัญพืชในปริมาณมากถึง 60,000 ตัน และยังทำให้ระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไม่สามารถใช้งานได้
สื่อใหญ่ทั่วโลกตีข่าว ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.
วุ่น! ทหารอเมริกันนายหนึ่ง “จงใจ” ข้ามแดนจากเกาหลีใต้ไปเกาหลีเหนือ
รัสเซียถล่มเมืองท่ายูเครน ตอบโต้เหตุระเบิดสะพานไครเมีย
จุดที่ถูกโจมตีจนทำให้ยูเครนต้องสูญเสียธัญพืชไปถึง 60,000 ตันคือท่าเรือเมืองชอร์โนมอร์สก์ ทางใต้ของเมืองโอเดสา เมืองท่าสำคัญริมทะเลดำของยูเครน ที่ตกเป็นเป้าโจมตีจากกองทัพรัสเซีย2คืนติดต่อกันตามมาตรการตอบโต้เหตุระเบิดสะพานเคิร์ชในแคว้นไครเมียที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนตั้งแต่ปี 2014
โดยรัสเซียเพิ่งถอนตัวออกจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำซึ่งเป็นการรับรองความปลอดภัยให้กับการขนส่งสินค้าตลอดเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเมื่อวานนี้ (วันพุธ) ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ได้กล่าวหาชาติตะวันตกว่าใช้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเครื่องมือข่มขู่ทางการเมือง
ประธานาธิบดี ปูติน ยืนยันว่ารัสเซียพร้อมจะกลับเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าวก็ต่อเมื่อมีการพิจารณาและปฏิบัติตามหลักการทั้งหมดที่รัสเซียได้ตกลงไว้
ความเห็นของประธานาธิบดี ปูติน มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่าตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันพุธที่ผ่านมาเป็นต้นไปรัสเซียจะถือว่าเรือทุกลำที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือของยูเครนจะเข้าข่ายเรือขนส่งอาวุธและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสู้รบคำพูดจาก เครื่องสล็อต
โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเตือนว่าพื้นที่บางส่วนทางทะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลดำจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับการเดินเรือไปอีกระยะหนึ่ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีแนวโน้มว่าดนีราคาอาหารกำลังจะแพงขึ้นมาก โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวสาลีพุ่งขึ้นเกือบ 9% ในวันพุธ และกำลังจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากความตึงเครียดในยุโรปเพิ่มขึ้นหลังจากการตัดสินใจของรัสเซียที่จะถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครน ขณะที่ราคาข้าวโพดล่วงหน้าก็สูงขึ้นเกือบ 2% ในวันอังคาร เนื่องจากผู้ค้ากลัวว่าแหล่งซัพพลายอาหารหลักจะขาดแคลน
ส่วนนักวิเคราะห์ด้านการสงครามของรัสเซียระบุว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่ายูเครนไม่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธหรือโดรนจากฝ่ายรัสเซียได้
ส่วน นาง แอนนาเลนา แบเออร์บอค ( Annalena Baerbock) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี วิจารณ์ว่าการที่รัสเซียโจมตีภูมิภาคโอเดสาไม่เพียงสร้างความเสียหายให้แก่ยูเครน แต่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนทั่วโลกที่กำลังหิวโหย
โดยก่อนหน้านี้สหประชาชาติแสดงความกังวลว่าการที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำได้เพิ่มความเสี่ยงที่หลายประเทศทั่วโลกจะประสบภาวะอดอยาก
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (วันพุธ) ได้เกิดเหตุระเบิดต่อเนื่องหลายครั้งที่โรงเก็บเครื่องกระสุนของรัสเซียในแคว้นไครเมีย โดยเสียงระเบิดกินระยะเวลายาวนานถึง 6 ชั่วโมงพร้อมเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้ต้องอพยพประชาชนโดยรอบกว่า 2,000 คน
นาย เซอร์เก อัคซิโยนอฟ (Sergey Aksyonov) ผู้ว่าการแคว้นไครเมียระบุว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของกองทัพ แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด